โครงการ Chevron Enjoy Science: สนุกวิทย์ พลังคิด เพื่ออนาคต ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) พัฒนาการเรียนการสอนในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ หรือ สะเต็ม ในระดับอาชีวศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะกำลังคนรุ่นใหม่ และนักเรียน-นักศึกษาในสายวิชาชีพให้มีคุณลักษณะตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและตอบรับกับการขับเคลื่อนนโยบาย “ไทยแลนด์ 4.0” ของรัฐบาล
การดำเนินงานภายใต้ความร่วมมือประกอบไปด้วยปัจจัยสำคัญ 3 ส่วน ลำดับแรก คือ การจัดหาหลักสูตรระดับแนวหน้าของโลกมาปรับใช้กับหลักสูตรของไทย รวมไปถึงการจัดพิมพ์หนังสือเรียนด้วยรูปเล่มที่มีคุณภาพสวยงาม และการมอบสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัยให้กับ สอศ. เพื่อนำไปใช้ในสถานศึกษาในสังกัดอาชีวศึกษาทั่วประเทศ สื่อดังกล่าวประกอบไปด้วยคู่มือครู สื่อวิดีทัศน์ หนังสือเรียน รวมทั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์เพื่อให้เด็กได้ลงมือทดลองปฎิบัติจริงในห้องเรียน โดยได้ส่งมอบให้แก่ ดร. สุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นผู้มารับมอบสื่อจากโครงการฯ ด้วยตนเองเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2560 โดยทั้งคู่มือครู และคู่มือนักเรียน รวมทั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์จะส่งเสริมซึ่งกันและกันเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ในห้องเรียนอย่างเป็นระบบ
ลำดับที่สอง การอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่ครูอาชีวศึกษาอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นอีกปัจจัยหนึ่งซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการที่จะเปลี่ยนกลวิธีในการเรียนการสอน โครงการฯ จึงได้จัดการอบรมเชิงปฎิบัติการเพื่อพัฒนาวิชาชีพให้แก่ครูอาชีวะในระดับชั้น ปวช. ให้สามารถใช้สื่อและอุปกรณ์ที่โครงการมอบให้ และสามารถใช้กระบวนการเรียนการสอนแบบสืบเสาะโดยใช้โครงงานหรือการตั้งปัญหาเป็นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การอบรมมีระยะเวลา 2 สัปดาห์ โดยจัดขึ้น 2 ครั้งเมื่อเดือนตุลาคม 2559 และมีนาคม 2560 คุณครูที่ผ่านการอบรมจะได้รับการสร้างเสริมทักษะในการใช้กลวิธีการสอนแบบสืบเสาะ และการใช้โครงงานและการตั้งปัญหาเป็นฐาน นอกจากนั้น คุณครูยังจะสามารถเชื่อมโยงวิธีการสอนให้สอดคล้องกับวิธีการทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งท่านเลขาธิการ สอศ. ยืนยันว่า หลักสูตรของ Chevron Enjoy Science ที่นำมาเสริมทักษะให้แก่ครูอาชีวะนี้จะช่วยให้นักเรียนนักศึกษาได้มีส่วนร่วมมากขึ้น และสนุกกับการเรียน ซึ่งจะส่งผลต่อการลดอัตราเด็กออกระหว่างภาคเรียน ขณะเดียวกันยังอาจดึงดูดให้เด็กๆ สนใจเข้าเรียนและศึกษาต่อในสายอาชีวศึกษาเพื่อเข้าสู่อาชีพได้มากขึ้น
ลำดับสุดท้าย โครงการได้มีการติดตามผลและให้คำปรึกษาด้านการเป็นพี่เลี้ยงทางวิชาการให้แก่ครูที่ผ่านการอบรม การให้คำปรึกษาจะดำเนินการโดยนักการศึกษาที่มีประสบการณ์ด้านการสอน โดยจะเข้าไปให้คำปรึกษาแก่ครูแต่ละรายเพื่อสร้างเสริมความมั่นใจให้แก่ครูและพัฒนาสมรรถนะครูในการใช้กลวิธีในการสอนแบบใหม่และชุดอุปกรณ์การทดลองได้อย่างมีประสิทธิภาพในห้องเรียน
การสนับสนุนด้านการให้คำปรึกษาอย่างเป็นระบบนี้มีความสำคัญต่อครูเป็นอย่างยิ่ง โดยจะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนวิธีการสอนของครูให้มีประสิทธิภาพไปจนตลอดการเส้นทางการสอน อันจะส่งผลไปสู่ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนของนักเรียนต่อไปในอนาคต
โครงการได้ซื้อลิขสิทธ์ในการใช้สื่อการสอน และอุปกรณ์มาจากสถาบัน It’s About Time® (IAT) จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งหลักสูตรของ IAT ได้รับการยอมรับจากสถาบันการศึกษาทั่วโลกว่าสามารถช่วยให้นักเรียน นักศึกษาเกิดความรู้ความเข้าใจและสนุกไปกับการเรียนวิชาด้านสะเต็มมากขึ้น สื่อการสอนเหล่านี้ทำให้ครูไทยมีเครื่องมือการสอนที่เหมาะสมในการสร้างสรรค์บรรยากาศการเรียนที่น่าสนใจ พร้อมการให้ความรู้ที่เชื่อมโยงกับการนำไปใช้ได้จริง จุดเด่นของสื่อฯ และอุปกรณ์ คือ การเชื่อมโยงหลักวิทยาศาสตร์เข้ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน หลักสูตรมุ่งเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางในการเรียน ทำให้นักเรียนเกิดความสนุกและมีส่วนร่วมในการเรียน และสร้างเสริมทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 อาทิ ทักษะการทำงานเป็นทีม ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะการคิดวิเคราะห์ เป็นต้น